พัฒนาการของลูกแมวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงโตเต็มวัย
การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ลูกแมวเติบโตขึ้นเป็นแมวโตเต็มวัย จะทำให้แน่ใจว่าลูกแมวได้รับสมดุลทางโภชนาการที่เหมาะสมในทุกช่วงของพัฒนาการ
ช่วงแรกเกิด
ควรนำลูกแมวไปดูดนมแม่หลังคลอดทันที แม่แมวจะส่งต่อสารอาหารสำคัญให้แก่ลูกๆ ในชั่วโมงและวันแรกๆ ผ่านทางน้ำนม ซึ่งส่งเสริมพัฒนาการและสุขภาพที่ดีของลูกแมว
ช่วงแรกเกิด
โภชนาการ
เมื่อลูกแมวคลอดออกมา ลูกแมวควรคลานไปหาแม่และเริ่มดูดนมทันที วิธีนี้จะทำให้ลูกแมวได้รับนมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนประกอบในน้ำนมแม่ที่อุดมด้วยสารภูมิต้านทานและช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
ช่วงแรกเกิด
สุขภาพ
ในช่วงแรกเกิด ลูกแมวมีความเสี่ยงเป็น 2 เท่า ลูกแมวอาจทรมาณกับการขาดออกซิเจนของระยะเวลาที่แตกต่างกันเนื่องจากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด และลูกแมวต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีแบคทีเรียและไวรัสทันทีหลังจากออกจากสภาพแวดล้อมในมดลูกที่ปลอดเชื้อ ผู้เพาะพันธุ์สัตว์ต้องระมัดระวังด้านสุขอนามัยอย่างมาก ดูแลจัดเตรียมคอกของลูกแมวแรกเกิดอย่างดี และเฝ้าดูการเกิดของลูกแมวเพื่อจำกัดผลกระทบต่อสุขภาพของลูกแมวแรกเกิด
ช่วงแรกเกิด
พฤติกรรม
แม้ว่าลูกแมวจะเกิดมาโดยที่ยังไม่ลืมตาและยังไม่ได้ยิน แต่ในระยะแรกนี้ลูกแมวสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าด้วยประสาทสัมผัสอื่นๆ ลูกแมวสามารถนำทางไปยังบริเวณโดยรอบโดยอาศัยกลิ่นและสัมผัส และยังทำให้ตัวเองอบอุ่นได้ด้วยการนอนซุกอยู่กับแม่และได้รับสารอาหารจากการดูดนมแม่
ช่วงแรกเกิด
พัฒนาการ
ลูกแมวควรมีน้ำหนักแรกเกิดอยู่ที่ 2-3% ของน้ำหนักตัวแม่แมว ในวันแรกๆ น้ำหนักควรเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 10% ของน้ำหนักแรกเกิด ตัวผู้จะมีน้ำหนักมากกว่าและโตเร็วกว่า ลูกแมวแรกเกิดจะมองไม่เห็นและไม่ได้ยิน และจะคลานไปหาแม่แมวเพื่อหาความอบอุ่นและดูดนม
ช่วงแรกเกิด
สภาพแวดล้อม
ลูกแมวแรกเกิดควรอยู่กับแม่แมวตลอดเวลาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น สะอาด และได้รับอาหาร ควรทำให้คอกมีอุณหภูมิประมาณ 22°C เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะตัวเย็นเกิน และควรมีความชื้นที่ 65-70%
แรกเกิด
ลูกแมวแรกเกิดจะอยู่ใกล้แม่และพี่น้องร่วมครอกเพื่อความปลอดภัยและความอบอุ่น ลูกแมวใช้เวลากับการนอนและการกินอาหาร
0 - 3 สัปดาห์
สุขภาพ
ในช่วงวันแรกๆ ของชีวิต ผู้ผสมพันธุ์สัตว์ที่มีความรับผิดชอบควรแน่ใจว่าลูกแมวได้รับการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์ ซึ่งจะตรวจหาภาวะผิดปกติตั้งแต่แรกคลอดหรือปัญหาต่างๆ ที่จำเป็นต้องจัดการ การแยกจากแม่และพี่น้องร่วมครอกเร็วเกินไปหรือตั้งแต่แรกเกิด อาจนำไปสู่พัฒนาการทางร่างกายและจิตใจที่ไม่สมบูรณ์ และอาจเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวได้ และควรถ่ายพยาธิทุกเดือนจนถึงอายุครบหกเดือน
0 - 3 สัปดาห์
โภชนาการ
ในขั้นตอนนี้ ลูกแมวจะยังคงพึ่งพิงนมแม่อย่างมากเพื่อสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและให้โปรตีนสำคัญที่จำเป็นต่อพัฒนาการของลูกแมว ในช่วงสี่สัปดาห์แรก ลูกแมวอาจเริ่มดื่มน้ำ ดังนั้น ควรเตรียมชามตื้นไว้ใกล้ๆ
0 - 3 สัปดาห์
พฤติกรรม
ในช่วงวัยนี้ ลูกแมวใช้เวลานอนเป็นส่วนใหญ่เกือบตลอดวัน ประมาณ 90% ของเวลาในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก การเคลื่อนไหวมีเพียงคลานเข้าไปหาแม่แมวเพื่อความอบอุ่นและดูดนม ลูกแมวจะเริ่มครางและส่งเสียงบางอย่าง
0 - 3 สัปดาห์
พัฒนาการ
เมื่ออายุประมาณ 5 วัน ลูกแมวจะเริ่มลืมตา สายสะดือของลูกแมวจะหลุดออกตอนอายุประมาณหนึ่งสัปดาห์ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลูกแมวเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นวันละ 10-30 กรัม
0 - 3 สัปดาห์
สภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมที่สะอาด เงียบสงบ และอบอุ่นเป็นสิ่งสำคัญในช่วงสัปดาห์แรกๆ หากมีเสียงดังและสิ่งรบกวนมากเกินไป รูปแบบการนอนหลับและการให้อาหารอาจถูกขัดขวาง สิ่งสำคัญคือการรักษาอุณหภูมิร่างกายของลูกแมวให้สูงกว่า 34 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิของลูกแมวลดลงต่ำกว่า 34 องศาเซลเซียส ลูกแมวจะไม่สามารถย่อยนมได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป และเมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 32 องศาเซลเซียส ปฏิกิริยาการดูดนมจะหายไปและการกินอาหารปกติจะหยุดลง
การหย่านม
พัฒนาการทางร่างกายของลูกแมวรวดเร็วขึ้นและเริ่มเข้าสู่ช่วงหย่านม วัยนี้เป็นช่วงสำคัญของการเรียนรู้จากแม่แมวและพี่น้องร่วมครอก
4 - 8 สัปดาห์
โภชนาการ
กระบวนการหย่านมจะเริ่มขึ้นขณะที่ฟันน้ำนมของลูกแมวเริ่มขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ลูกแมวจะเริ่มแสดงความสนใจในอาหารแข็งของแม่ และลูกแมวสามารถเริ่มเปลี่ยนไปกินอาหารอย่างอื่นแทนการกินนมเพียงอย่างเดียวได้แล้ว แต่เนื่องจากระบบทางเดินอาหารยังไม่โตเต็มที่ ทำให้ลูกแมวจำเป็นต้องได้รับอาหารที่ย่อยง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนตามความต้องการของช่วงวัยนี้
4 - 8 สัปดาห์
สุขภาพ
ในระยะนี้จะเป็นระยะที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ (immunity gap) ในช่วงเวลานี้ เมื่อระดับของสารภูมิต้านทานที่ได้รับจากแม่มีไม่เพียงพอที่จะปกป้องลูกแมวอีกต่อไป แต่ก็สูงเกินไปจนไม่สามารถรับประกันได้ว่าการฉีดวัคซีนจะได้ผล ทำให้ลูกแมวมีความเสี่ยงที่จะติดโรคมากขึ้น การนอนหลับจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกแมว เพราะฉะนั้น การปล่อยให้ลูกแมวได้นอนหลับในที่ที่อบอุ่น สบาย และเงียบสงบจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
4 - 8 สัปดาห์
พฤติกรรม
ในขั้นตอนนี้ลูกแมวจะเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับพี่น้องร่วมครอกเดียวกันมากขึ้น ลูกแมวจะเริ่มทำความสะอาดโดยการเลียขนให้กัน ลูกแมวจะเริ่มเล่นอย่างสนุกสนาน เริ่มวิ่ง เริ่มมีพฤติกรรมตะปบและสะกดรอย ในขั้นตอนนี้การมองเห็นของลูกแมวพัฒนาอย่างเต็มที่แล้ว
4 - 8 สัปดาห์
พัฒนาการ
ภายในสัปดาห์ที่ 4 การดมกลิ่นจะพัฒนาสมบูรณ์และการได้ยินจะพัฒนาเป็นอย่างดีแล้ว ในสัปดาห์ที่ 6 และ 7 ลูกแมวจะเริ่มพัฒนารูปแบบการนอนและการเคลื่อนไหวแบบแมวโตเต็มวัย ทักษะทางสังคมที่สำคัญพัฒนาผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับพี่น้องร่วมครอกเดียวกันและการเรียนรู้ผ่านการสังเกตพฤติกรรมของแม่
4 - 8 สัปดาห์
สภาพแวดล้อม
เมื่อลูกแมวเดินได้คล่องและกล้าผจญภัยมากขึ้น ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปรับสภาพแวดล้อมให้ 'ปลอดภัยสำหรับลูกแมว' นอกจากนี้ช่วงนี้ยังเป็นช่วงการเรียนรู้ที่สำคัญ ดังนั้น ควรเตรียมพร้อมให้แน่ใจว่าลูกแมวสามารถเข้าถึงของเล่นและกิจกรรมอื่นๆ ได้ การสัมผัสและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากมายเป็นประจำจะช่วยให้ลูกแมวมีความมั่นใจเมื่อเติบโตเป็นแมวโตเต็มวัย
การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ลูกแมวเริ่มที่จะรู้จักที่ของตัวเองและพัฒนาพฤติกรรมที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต
2 - 4 เดือน
สุขภาพ
ตั้งแต่อายุประมาณ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ลูกแมวของคุณจะอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมในการเริ่มการฉีดวัคซีนหลักและอาจต้องฉีดวัคซีนเสริม 3-5 สัปดาห์หลังจากนั้น กระบวนการนี้มีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวทุกตัวได้รับการป้องกันที่ถูกต้องเพื่อชีวิตแมวโตเต็มวัยต่อไป โปรดปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าตารางการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างเหมาะสม
2 - 4 เดือน
โภชนาการ
ลูกแมวจะยังไม่สามารถย่อยสารอาหารบางอย่างได้ ดังนั้น คุณควรให้ลูกแมวกินอาหารสูตรเฉพาะสำหรับช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวจะได้รับสารอาหารและพลังงานที่ต้องการในช่วงสำคัญของการเจริญเติบโตนี้
2 - 4 เดือน
พฤติกรรม
ในช่วงนี้พฤติกรรมของลูกแมวได้รับอิทธิพลจากผู้อื่นมากที่สุด รวมถึงพี่น้องร่วมครอก สัตว์เลี้ยงอื่นๆ และคน ลูกแมวยังเริ่มเข้าใจลำดับของตัวเองภายในครอบครัวและอาจเริ่มแสดงพฤติกรรมแสดงอำนาจและอ่อนน้อมซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการฝึกลูกแมว
2 - 4 เดือน
พัฒนาการ
ในช่วงวัยนี้ เป็นช่วงวัยสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้คน ดังนั้นการสร้างความมั่นใจในความมั่นคง การสนับสนุน และความรักจึงถือเป็นกุญแจสำคัญ การเข้าสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ในวัยนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตเป็นแมวที่มีนิสัยดีและมีความสุข
2 - 4 เดือน
สภาพแวดล้อม
ลูกแมวจะเริ่มห่างจากแม่และออกไปอยู่บ้านใหม่ตอนอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาถึง 12 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้เพาะพันธุ์สัตว์ หากคุณกำลังจะนำลูกแมวมาเลี้ยงที่บ้าน สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมสภาพแวดล้อมให้พร้อมอย่างเต็มที่ สายไฟฟ้าและปลั๊กไฟต้องมีที่หุ้ม หน้าต่าง ระเบียงและบันไดต้องมีที่กั้น รวมทั้งจัดเก็บวัตถุมีคมและมีขนาดเล็กให้ห่างจากที่ของลูกแมว
การเจริญเติบโตที่ยั่งยืน
เมื่อลูกแมวกำลังจะโตเต็มไว ลูกแมวจะค่อยๆ มีพัฒนาการทางกายภาพอย่างเต็มที่
4 เดือนขึ้นไป
สุขภาพ
ในช่วงเวลานี้ แมวจะเริ่มทำเครื่องหมายสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยกลิ่น โดยการปัสสาวะหรือถูไถใบหน้าบริเวณที่มีต่อมกลิ่นลงไปบนสิ่งของต่างๆ สัตว์ตัวอื่น รวมทั้งคน นี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าแมวเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้ว ตอนนี้คุณควรเริ่มปรึกษากับสัตวแพทย์เกี่ยวกับการทำหมันได้
4 เดือนขึ้นไป
โภชนาการ
เมื่อลูกแมวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยและใกล้มีน้ำหนักของแมวโตเต็มวัยอย่างสมบูรณ์ ลูกแมวจะต้องการอาหารและปริมาณอาหารแบบแมวโตเต็มวัย สมดุลทางโภชนาการจะขึ้นอยู่กับขนาดและปัจจัยในการใช้พลังงานของแมว เช่น ได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านหรือไม่และทำหมันแล้วหรือยัง
4 เดือนขึ้นไป
พฤติกรรม
เมื่อแมวโตเต็มวัย แมวจะเพิ่มพื้นที่ในการสำรวจและทำตัวเป็นใหญ่ภายในบ้าน ซึ่งรวมถึงการท้าทายสถานะของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในฐานะเจ้าของ คุณต้องทำกิจวัตรและพฤติกรรมเช่นเดิมเหมือนช่วงที่แมวเกิดใหม่เพื่อความสม่ำเสมอและลดการเกิดความเครียด
4 เดือนขึ้นไป
พัฒนาการ
ในช่วงนี้ ลูกแมวของคุณจะเริ่มพัฒนาฟันของแมวโตเต็มวัยจำนวน 30 ซี่ ถ้ายังไม่ได้ทำหมัน แมวจะพร้อมในการผสมพันธุ์เมื่ออายุหกเดือน และวงรอบการเป็นสัดจะเริ่มต้นขึ้น เมื่ออายุได้แปดเดือน ลูกแมวจะมีน้ำหนักประมาณ 80% ของแมวโตเต็มวัย โดยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แมวจะโตเต็มวัยเมื่อมีอายุระหว่าง 12 ถึง 15 เดือน
4 เดือนขึ้นไป
สภาพแวดล้อม
เมื่อลูกแมวได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกเข็มและมีอายุประมาณ 6 เดือน คุณสามารถเริ่มให้ลูกแมวทำความคุ้นเคยกับโลกภายนอกได้ วิธีการแบบแบ่งเป็นช่วงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด จนกว่าลูกแมวจะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม เจ้าของควรอยู่ใกล้ๆ เมื่อลูกแมวอยู่นอกบ้าน เมื่อรู้สึกมั่นใจ ลูกแมวจะเดินออกไปไกลขึ้น ตามหลักแล้ว แมวตัวผู้จะมีอาณาเขตที่กว้างกว่า ในขณะที่ตัวเมียจะอยู่ใกล้บ้านมากกว่า ในช่วงนี้ พฤติกรรมและระเบียบวินัยของเจ้าของที่คงเส้นคงวาเป็นสิ่งสำคัญ
กลายเป็นแมวโตเต็มวัย
เมื่อถึงเวลาที่ลูกแมวมีน้ำหนักเท่ากับแมวโตเต็มวัย น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นจากน้ำหนักแรกเกิด 40-50 เท่า
12-18 เดือน
กลายเป็นแมวโตเต็มวัย
ลูกแมวจะกลายเป็นแมวโตเต็มวัยเมื่ออายุประมาณ 12 เดือน โดยแมวสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่จะยังไม่โตเต็มวัยจนกว่าจะอายุ 15 เดือน ขณะที่ลูกแมวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยคือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนอาหารให้ตรงตามความต้องการด้านโภชนาการตามสายพันธุ์และไลฟ์สไตล์ของแมว
โภชนาการตามความต้องการเฉพาะสำหรับลูกแมว
โภชนาการสำหรับลูกแมวของโรยัล คานิน เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี โดยมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของลูกแมวในช่วงปีแรก
ค้นหาอาหารที่เหมาะสำหรับแมวของคุณ
สูตรอาหารสำหรับแมวโตเต็มวัยของเรามอบโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับความต้องการด้านสุขภาพของแมวของคุณ ไม่ว่าแมวจะมีขนาด สายพันธุ์ อายุ หรือไลฟ์สไตล์แบบไหนก็ตาม