มาคุยเรื่องสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดกันเถอะ
เรียกอีกชื่อได้ว่า คุณหมายอดนิยม สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวางที่สุด ได้รับการยกย่องว่ามีความฉลาดสูงและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของสุดๆ เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นสัตว์เลี้ยงแสนวิเศษของครอบครัว เชื่อฟังคำสั่งมาก ซึ่งทำให้ง่ายต่อการฝึกฝน และสุนัขก็สนุกกับการฝึกด้วย ข้อดีพิเศษเพิ่มเติมคือ ดวงตาที่แสนสดใส พร้อมลวดลายที่น่าทึ่ง
ชื่ออย่างเป็นทางการ: สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด
ชื่ออื่นๆ: เยอรมัน, เชพเพิร์ด, อัลเซเชียน, จีเอสดี
แหล่งกำเนิด: เยอรมนี
แนวโน้มของการมีน้ำลายไหล
1 out of 5ความต้องการในการดูแลขน
5 out of 5ระดับการผลัดขน
5 out of 5แนวโน้มของการเห่า
4 out of 5ระดับพลังงาน*
5 out of 5ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
2 out of 5ความเหมาะสมต่ออากาศอบอุ่น
3 out of 5ความเหมาะสมต่ออากาศหนาว
4 out of 5ความเหมาะสมต่อการเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์
2 out of 5ความสามารถในการอยู่ได้โดยลำพัง*
1 out of 5ความเหมาะสมกับครอบครัว*
4 out of 5
ตัวผู้ | ตัวเมีย |
---|---|
ความสูง | ความสูง |
60 - 65 cm | 55 - 60 cm |
น้ำหนัก | น้ำหนัก |
30 - 40 kg | 22 - 32 kg |
ขั้นตอนชีวิต | |
---|---|
ช่วงวัยลูกสุนัข | ช่วงอายุโตเต็มวัย |
อายุ 2 ถึง 15 เดือน | 15 เดือนถึง 5 ปี |
ช่วงอายุเริ่มสูงวัย | ช่วงอายุสูงวัย |
5 ถึง 8 ปี | 8 ถึง 18 ปี |
ช่วงวัยแรกเกิด | |
วัยแรกเกิดถึง 2 เดือน |
มาทำความรู้จักกับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด
สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์นี้
เยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่ฉลาด, ร่าเริง และแน่วแน่ ตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการมากมายในตัวสุนัข นี่คือสุนัขที่อุทิศตัวให้กับเจ้าของและครอบครัว สุนัขจะเดินตามคุณจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง ขึ้นรถ ไปทุกที่ที่คุณไป
เยอรมัน เชพเพิร์ดมีพลังงานเยอะหรือไม่ เยอะมาก แต่นั่นก็หมายถึงความสนุกเช่นกัน เนื่องจากสายพันธุ์นี้มองว่าทุกกิจกรรมนั้นเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง งานทุกงานที่มอบหมายให้กับเยอรมัน เชพเพิร์ด รวมทั้งการแข่งสะกดรอยสัตว์และการแข่งความคล่องตัวที่สุนัขทำได้ดีมาก
มีลักษณะประการหนึ่งที่กำหนดความเป็นเยอรมัน เชพเพิร์ด นั่นคือความฉลาด สุนัขเป็นที่รู้จักในเรื่องสติปัญญาสูงอย่างไม่น่าเชื่อและความสามารถในการคิดแก้ไขปัญหา ด้วยสาเหตุนี้ พร้อมด้วยความซื่อสัตย์ที่มีตามธรรมชาติ ทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมใช้งานในงานของตำรวจหรือทหาร
เนื่องด้วยความฉลาดอย่างมากของสุนัข สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดจึงนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในฐานะสุนัขช่วยเหลือสำหรับผู้พิการหรือผู้พิการทางสายตา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบทบาทนี้เมื่อพิจารณาจากความซื่อสัตย์ ความฉลาด และความสามารถในการดมกลิ่นที่เฉียบขาด
ฝึกสุนัขให้ดี แล้วสายพันธุ์นี้จะให้สิ่งที่ดีแก่คุณอย่างน่าทึ่ง ด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง สายพันธุ์นี้ยังเป็นที่รู้กันว่าเป็นเพื่อนที่ดี สุนัขผูกพันอย่างมากกับเจ้าของ ดังนั้น การสอนสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องทำสม่ำเสมอ
จุดเด่นอื่นๆ ของสายพันธุ์ได้แก่ ขน! ขนสองชั้น ประกอบด้วขนชั้นนอกที่หนานุ่ม สีสันที่ชัดเข้มและโดดเด่น ทำให้สุนัขสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดมีรูปลักษณ์ที่สง่างาม
ข้อเท็จจริง 2 ประการเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด
1. ความสามารถในการรับรู้กลิ่นอันน่าทึ่ง
สายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นหนึ่งในผู้นำด้านความสามารถในการรับรู้กลิ่น ซึ่งหมายถึงดมกลิ่นนั่นเอง เดิมนั้น สุนัขถูกใช้เพื่อทำการค้นหาและกู้ภัย และใช้สำหรับการดมกลิ่นระเบิดและยาเสพติดในงานของตำรวจและทหาร เนื่องจากมีลักษณะเด่นนี้
2. เมื่อพูดถึงจมูก....
สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นสุนัขต้อนสัตว์ และกลายเป็นที่รู้จักไม่เฉพาะในเรื่องการต้อนสัตว์ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการไล่ตามมนุษย์ด้วย สุนัขจะดุนคุณด้วยจมูก เมื่อสุนัขต้องการออกไปข้างนอก ไปเดินเล่น หรือเมื่อถึงเวลาอาหาร นี่เป็นลักษณะที่มีเสน่ห์และไม่เป็นอันตราย และอาจเป็นประโยชน์หากคุณมีเด็กๆ เนื่องจากเยอรมัน เชพเพิร์ดมีนิสัยที่ชอบปกป้องอย่างมากเช่นกัน
ประวัติของสายพันธุ์
อุปนิสัยของเยอรมัน เชพเพิร์ด ซึ่งนิ่งและซื่อสัตย์อย่างยิ่ง สะท้อนให้เห็นถึงการเพาะพันธุ์อย่างรอบคอบโดยกัปตัน Max Frederic Emile Von Stephanitz ในเยอรมนีที่เริ่มขึ้นในปี 1899 Von Stephanitz ต้องการสร้างสุนัขต้อนสัตว์ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะต้อนแกะ จึงนำผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขต้อนแกะจากเยอรมนีตอนใต้และเยอรมนีตอนกลาง เป้าหมายคือสุนัขที่มีความฉลาดสูงและแข็งแรง "เชพเพิร์ด" (คนเลี้ยงแกะ) จึงกำเนิดขึ้น
หลังจากนั้น Von Stephanitz ก่อตั้งสโมสรสำหรับสายพันธุ์นี้ขึ้นที่แฟรงก์เฟิร์ตในปี 1899 สายพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาความสามารถในการเชื่อฟังคำสั่งในปีต่อๆ มา และกลายเป็นที่นิยมในการใช้ดูแลความปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานของทหารและตำรวจ ซึ่งยังคงใช้งานสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดอย่างกว้างขวางจนถึงทุกวันนี้ และความชื่นชมในตัวสุนัขสายพันธุ์นี้ก็มาสู่ประชาชนทั่วไป โดยสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในสหรัฐอเมริกา อันเป็นผลมาจากดาราสุนัขในภาพยนตร์เรื่อง Rin-Tin-Tin และ Strongheart สายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก โดย American Kennel Club จัดอันดับให้อยู่ในสิบอันดับแรกของสายพันธุ์ยอดนิยมในสหรัฐฯ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเป็นอันดับสองรองจากลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
ตั้งแต่หัวจรดหาง
ลักษณะทางกายภาพของสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด
1.หู
2.ศีรษะ
3.เส้นขน
4.ลำตัว
5.หาง
.
ข้อควรระวัง
นี่คือข้อเท็จจริงในลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์บางประการ รวมถึงสุขภาพทั่วไปโดยรวมของสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดของคุณ
สายพันธุ์ที่แข็งแรงแต่ท้องเสียง่าย
เมื่อกล่าวถึงสุขภาพ เยอรมัน เชพเพิร์ดอาจมีปัญหาอยู่บ้างเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบย่อยอาหารและอาการท้องเสีย ซึ่งไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องสนุกนักสำหรับสุนัข เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์จากอาหาร ท้องร่วงหรืออุจจาระเหลว กระเพาะและลำไส้อักเสบ เอ็นไซม์ย่อยอาหารไม่เพียงพอ ท้องอืดหรือ IBD รวมถึงความผิดปกติอื่นๆ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้หรือการระคายเคืองผิวหนัง อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน การให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแก่สุนัขจะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพที่ดี การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งอาจใช้เวลาและเงินเป็นจำนวนมาก สัตวแพทย์ที่ดีจะช่วยคุณแก้ไขปัญหานี้
ระวังสะโพกด้วยนะ!
ข้อสะโพกเสื่อมเป็นการเจ็บป่วยอันดับสามของเยอรมัน เชพเพิร์ด โดยข้อมูลแล้ว สายพันธุ์นี้มีแนวโน้มเป็นโรคนี้มาก โรคนี้เป็นโรคทางพัฒนาการของข้อต่อลูกกลมและเบ้ากระดูกที่กระดูกต้นขาและกระดูกสะโพกไม่สอดคล้องกัน อันส่งผลให้เป็นโรคข้ออักเสบ ดังนั้น ต้องดูแลให้อัตราการเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสุนัขพันธุ์ใหญ่เป็นไปอย่างสม่ำเสมอคงที่เพื่อให้กระดูกและกล้ามเนื้อของสุนัขพัฒนาไปอย่างสอดคล้องกัน โรคข้อเสื่อมอาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อเติบโตเร็วขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความเครียดที่กระดูกและข้อต่อ ส่งผลให้เกิดโรคข้ออักเสบตามด้วยข้อเสื่อม หมั่นนำสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้นและค้นหาสัญญาณความผิดปกติ
พลังงานล้นเหลือ
ขอเตือนไว้ล่วงหน้าประการหนึ่ง สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่บ้าพลังมาก อาจฟังดูน่าตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการเลี้ยงสุนัขที่สง่างามพันธุ์นี้ในบ้านของคุณ แต่นี่ไม่ใช่สายพันธุ์ที่เหมาะกับทุกคน สุนัขต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันและในปริมาณมาก ถึงขนาดที่สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดจะวิ่งไปกับคุณในระยะทางไกลได้อย่างง่ายดาย และพร้อมวิ่งเหยาะๆ เป็นเวลาได้หลายชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับสายพันธุ์ต่างๆ สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดอาจประสบปัญหาสุขภาพเมื่อลักษณะทางกายภาพบางอย่างของพวกเขาใหญ่โตมากเกินไป ในกรณีของสายพันธุ์นี้คือ ปัญหาหลังลาดเอียง ซึ่งอาจเกิดจากการพัฒนาสุนัขสำหรับการประกวด ผู้เพาะพันธุ์สัตว์มุ่งเพาะสุนัขที่มีรูปร่างสง่างามและขาสั้นลงเพื่อการเดินที่กระฉับกระเฉงยามสุนัขเดินบนเวทีประกวด เราขอแนะนำให้คุณซื้อสุนัขจากผู้เพาะพันธุ์สัตว์ที่มีความรับผิดชอบเสมอ และขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณหากจำเป็น
โภชนาการที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข
มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกอาหารให้กับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด ได้แก่ อายุ ไลฟ์สไตล์ ระดับกิจกรรม สภาพร่างกาย และสุขภาพรวมถึงการเจ็บป่วยหรืออาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารช่วยให้พลังงานเพื่อเสริมสร้างการทำงานที่สำคัญของร่างกายและสูตรโภชนาการที่ครบถ้วนควรมีสารอาหารที่สมดุลเพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารมากเกินไป ซึ่งทั้งสองอย่างอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของสุนัขได้ ควรจัดเตรียมน้ำสะอาดไว้ให้ตลอดเวลาเพื่อสนับสนุนให้สุนัขปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ ในสภาพอากาศร้อนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกกำลังกาย ควรนำน้ำไปด้วยเพื่อให้สุนัขของคุณได้พักดื่มน้ำบ่อยๆ นอกจากนั้นยังอาจต้องปรับการบริโภคพลังงานตามสภาพภูมิอากาศ สุนัขที่อยู่กลางแจ้งในฤดูหนาวจะต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น คำแนะนำต่อไปนี้ใช้ได้กับสัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น หากสุนัขของคุณมีปัญหาสุขภาพ โปรดปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณเพื่อสั่งจ่ายอาหารสุนัขสูตรลดน้ำหนักพิเศษ
ลูกสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องการพลังงาน โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินสูงกว่าช่วงโตเต็มวัย ลูกสุนัขต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ก็เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างร่างกายด้วยเช่นกัน ร่างกายลูกสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดจะค่อยๆ สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันจนกระทั่งอายุ 15 เดือน สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งรวมถึงวิตามินอี จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติตลอดช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การผจญภัย และการพบเจอสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ การทำงานของระบบย่อยอาหารของลูกสุนัขมีความแตกต่างจากสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดโตเต็มวัยด้วยเช่นกัน ระบบทางเดินอาหารของลูกสุนัขที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ต้องการโปรตีนที่ย่อยได้ง่ายเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล แมนแนนโอลิโกแซคคาไรด์และพรีไบโอติก เช่น ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของทางเดินอาหารโดยช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้ ซึ่งจะทำให้ให้อุจจาระมีคุณภาพดี
สิ่งสําคัญคือต้องเลือกเม็ดอาหารที่มีขนาด รูปร่าง และเนื้อสัมผัสที่เหมาะสม ช่วงการเจริญเติบโตนี้ยังหมายถึงความต้องการพลังงานในระดับปานกลาง ลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่มีการเจริญเติบโตที่พรวดพราดในระยะเวลาที่ยาวนาน ดังเช่น ลูกสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด มีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกและข้อต่อ รวมถึงความผิดปกติของแขนและขา กระดูกที่ผิดรูป และการบาดเจ็บที่ข้อต่อ ข้อกังวลหลักในช่วงแรกของการเจริญเติบโตคือพัฒนาการของกระดูก แม้ว่ากล้ามเนื้อเริ่มเติบโตแล้วก็ตาม ซึ่งหมายความว่าลูกสุนัขที่กินมากเกินไป ได้รับพลังงานมากเกินไป จะมีน้ำหนักตัวมากเกินไปและเติบโตเร็วเกินไป น้ำหนักส่วนเกินบนโครงกระดูกนี้จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะมีความผิดปกติของกระดูกและปัญหาข้อต่อ หรือการเจริญเติบโตผิดปกติ การจำกัดปริมาณพลังงานในอาหารสําหรับลูกสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด และการให้อาหารในปริมาณที่ถูกต้องในแต่ละวันจะช่วยควบคุมความเร็วของการเจริญเติบโตและลดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักเพิ่มมากเกินไปนี้
สารอาหารอื่นๆ ในอาหารสูตรพิเศษเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตควรมีความเข้มข้นมากกว่าปกติ แม้จะต้องเพิ่มปริมาณแคลเซียมในอาหารให้มากขึ้น ลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ยังคงมีความเสี่ยงมากขึ้นจากการบริโภคแคลเซียมมากเกินไป ดังนั้น จึงต้องเข้าใจว่าการเพิ่มส่วนผสมใดๆ ลงไปในในอาหารสูตรเฉพาะสำหรับการเจริญเติบโตนั้นไม่มีความจำเป็น และอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อตัวสัตว์เลี้ยงเอง เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ แนะนําให้แบ่งปริมาณอาหารที่ควรได้รับต่อวันออกเป็นสามมื้อจนกว่าสุนัขจะมีอายุครบ 6 เดือน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นให้อาหารวันละสองมื้อ
เป้าหมายหลักด้านโภชนาการสําหรับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดโตเต็มวัยคือ:
ส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและใยอาหารที่เลือกสรรมาโดยเฉพาะเพื่อลดการหมักในลำไส้ ช่วยเสริมสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้และคำนึงถึงความอ่อนไหวของระบบทางเดินอาหารของเยอรมัน เชพเพิร์ด
บำรุง สุขภาพและความเงางามของผิวหนังและขนด้วยการเพิ่ม กรดไขมันที่จําเป็น (โดยเฉพาะ EPA-DHA) กรดอะมิโนที่สำคัญและวิตามินบี เพื่อสร้างเสริมการทำหน้าที่เกราะป้องกันของผิวหนัง
ช่วย บำรุงสุขภาพของกระดูกและข้อต่อด้วยกลูโคซามีน คอนดรอยติน และสารต้านอนุมูลอิสระ
สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดจะเริ่มเแสดงสัญญาณของความสูงวัยเมื่ออายุ 5 ปีขึ้นไป อาหารสูตรที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยบำรุงกำลัง และสารอาหารเฉพาะบางอย่าง เช่น คอนดรอยทิน กลูโคซามีน คอลลาเจน และ EPA-DHA จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของกระดูกและข้อต่อของสุนัข ความสูงวัยมาคู่กับความสามารถในการย่อยอาหารที่เปลี่ยนไป รวมถึงความต้องการสารอาหารเฉพาะมากขึ้น ดังนั้นอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดสูงวัยจึงควรมีคุณลักษณะดังนี้
มีปริมาณวิตามินซีและอีสูง สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากความเครียดที่เกิดจากออกซิเดชันที่เกี่ยวข้องกับความสูงวัย
โปรตีนคุณภาพสูง การลดปริมาณโปรตีนในอาหารช่วยลดอาการไตวายได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งขัดกับความเข้าใจผิดที่แพร่หลายมาก ยิ่งไปกว่านั้น สุนัขอายุมากมีประสิทธิภาพในนำโปรตีนในอาหารไปใช้ประโยชน์ได้น้อยกว่าสุนัขอายุน้อย การลดปริมาณฟอสฟอรัสเป็นการชะลอความเสื่อมสภาพของการทำงานของไตในระยะยาวได้ดี
สัดส่วน ของแร่ธาตุที่จำเป็นในระดับที่สูง ได้แก่ ธาตุเหล็ก และสังกะสีจะช่วยในการบำรุง ผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี
มีปริมาณ กรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงขึ้น เช่น น้ำมันโบราจและน้ำมันปลา เพื่อช่วยดูแลขนให้มีสุขภาพดี โดยปกติแล้วสุนัขจะผลิตกรดไขมันเหล่านี้ได้เอง แต่ความสูงวัยอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานนี้
เมื่ออายุมากขึ้น สุนัขก็จะประสบปัญหาเกี่ยวกับฟันมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขรับประทานอาหาร ในปริมาณที่เพียงพอ ควรต้องปรับเปลี่ยน รูปทรง ขนาด และความแข็งของเม็ดอาหาร ให้เหมาะสมกับกรามของสุนัขในวัยนี้
เจ้าของไม่ควรให้อาหารสำหรับคนหรือขนมที่มีไขมันแก่สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดตลอดชีวิตของสุนัข ควรให้รางวัลสุนัขด้วยการแบ่งอาหารเม็ดจากปริมาณอาหารต่อวัน และปฏิบัติตามแนวทางการให้อาหารที่เขียนกำกับไว้ข้างบรรจุภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขมีน้ำหนักตัวมากที่เกินพอดี
การดูแลสุนัขสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดของคุณ
เคล็ดลับในการดูแลขน การฝึก และการออกกําลังกาย
เยอรมัน เชพเพิร์ดและการออกกำลังกายเป็นของคู่กัน สุนัขต้องการกิจกรรมมากมายในแต่ละวันเนื่องจากเป็นสุนัขที่แข็งแรงและทำงานได้ดีมาก อีกทั้งยังเป็นนักวิ่งยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะวิ่งตัวเดียวหรือวิ่งเคียงคู่ไปกับเจ้าของ สุนัขวิ่งระยะทางไกลได้ดี การออกกำลังกายโดยไล่ต้อนฝูงสัตว์ สะกดตามรอยสัตว์ หรือกิจกรรมเน้นความคล่องตัวยังเหมาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์นี้ ซึ่งมักเป็นคู่แข่งกันเองในการแข่งขันประเภทนี้ รวมถึงการแข่งขันสุนัขทำงานและการประกวดสุนัขทุกประเภทอีกด้วย
เยอรมัน เชพเพิร์ดมีขนสองชั้น ขนชั้นนอกค่อนข้างหยาบ และขนชั้นในอ่อนนุ่ม แนะนำให้ดูแลขนโดยการแปรงขนสัปดาห์ละสองครั้ง แม้จะมีความเป็นนักกีฬาสูง แต่ไม่ต้องอาบน้ำเยอรมัน เชพเพิร์ดบ่อยเกินไป โดยทั่วไปแล้ว สายพันธุ์ที่มีขนยาวจะผลัดขน แต่ถ้าแปรงเป็นประจำ การผลัดขนจะน้อยลง การผลัดขนจะเกิดขึ้นปีละสองครั้ง เพื่อให้ขนใหม่เกิดขึ้น ควรตัดแต่งเล็บทุกเดือน แต่ถ้าสุนัขเดินบนพื้นผิวที่แข็ง เล็บของสุนัขจะสั้นและไม่จำเป็นต้องตัดเล็บบ่อย
สายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดฝึกง่ายมาก เนื่องจากมีอุปนิสัยที่ตอบสนองต่อคำแนะนำและคำสั่งได้ดี สุนัขกระตือรือร้นอย่างมากที่จะทำให้เจ้าของพอใจ และคงไม่พูดเกินจริงหากจะบอกว่าสุนัขฉลาดอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเมื่อต้องการให้สุนัขกลายเป็นเพื่อนคู่หูที่ยอดเยี่ยม ขอแนะนำให้เริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข เพราะเยอรมัน เชพเพิร์ดชอบที่จะได้ทำสิ่งต่างๆ สุนัขมีความผูกพันอย่างมากกับสมาชิกในครอบครัวที่เป็นมนุษย์
7/7
ทุกสิ่งเกี่ยวกับสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด
สายพันธุ์นี้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีเยี่ยมของครอบครัวเมื่อผ่านการฝึกมาแล้ว เนื่องจากสุนัขมีความซื่อสัตย์และผูกพันกับเจ้าของอย่างน่าทึ่ง เยอรมัน เชพเพิร์ดชื่นชอบการทำงาน จึงตอบสนองต่อคำสั่งได้ดี สุนัขเต็มใจที่จะไปเดินเล่นหรือวิ่งทุกเวลา และมีแนวโน้มที่จะเป็นมิตรกับเด็กมากและชอบปกป้อง สุนัขฉลาดมากจึงทำให้เชื่อฟังและเข้าใจคำสั่งได้ดี
ไม่เลย เยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่น่ารัก และตอบสนองได้ดีกับทุกคำสั่ง สายพันธุ์ที่กระตือรือร้นสูงนี้ต้องการทำงานเสมอเพื่อให้ไม่เบื่อ ตราบใดก็ตามที่คุณรู้วิธีที่จะทำให้สุนัขยุ่งอยู่ตลอดเวลาได้ สุนัขต้องการความมุ่งมั่นอย่างจริงจังจากเจ้าของที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง แต่ก็คุ้มค่าที่จะเลี้ยง ปัญหาสุขภาพใดๆ ของเยอรมัน เชพเพิร์ดสามารถจัดการได้ด้วยการดูแลอย่างเหมาะสม
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้
ที่มา
- ศูนย์สัตวแพทย์แห่งอเมริกา https://vcahospitals.com/
- สารานุกรมสุนัขของโรยัล คานิน ฉบับปี 2010 และ 2020
- โรงพยาบาลสัตว์แบนฟิลด์ https://www.banfield.com/
- คู่มือผลิตภัณฑ์ BHN ของโรยัล คานิน
- American Kennel Club https://www.akc.org/
ชอบ และแบ่งปันหน้านี้