มาคุยเรื่องสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดกันเถอะ

เรียกอีกชื่อได้ว่า คุณหมายอดนิยม สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวางที่สุด ได้รับการยกย่องว่ามีความฉลาดสูงและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของสุดๆ เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นสัตว์เลี้ยงแสนวิเศษของครอบครัว เชื่อฟังคำสั่งมาก ซึ่งทำให้ง่ายต่อการฝึกฝน และสุนัขก็สนุกกับการฝึกด้วย ข้อดีพิเศษเพิ่มเติมคือ ดวงตาที่แสนสดใส พร้อมลวดลายที่น่าทึ่ง

ชื่ออย่างเป็นทางการ: สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด

ชื่ออื่นๆ: เยอรมัน, เชพเพิร์ด, อัลเซเชียน, จีเอสดี

แหล่งกำเนิด: เยอรมนี

ภาพขาวดำของสุนัขโตเต็มวัยพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด
  • แนวโน้มของการมีน้ำลายไหล

    1 out of 5
  • ความต้องการในการดูแลขน

    5 out of 5
  • ระดับการผลัดขน

    5 out of 5
  • แนวโน้มของการเห่า

    4 out of 5
  • ระดับพลังงาน*

    5 out of 5
  • ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

    2 out of 5
  • ความเหมาะสมต่ออากาศอบอุ่น

    3 out of 5
  • ความเหมาะสมต่ออากาศหนาว

    4 out of 5
  • ความเหมาะสมต่อการเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์

    2 out of 5
  • ความสามารถในการอยู่ได้โดยลำพัง*

    1 out of 5
  • ความเหมาะสมกับครอบครัว*

    4 out of 5
* เราไม่แนะนําให้ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่โดยลำพังเป็นเวลานานๆ การมีคนหรือสัตว์อยู่ด้วยช่วยป้องกันความเครียดและลดพฤติกรรมทำลายข้าวของ โปรดขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณ สัตว์เลี้ยงทุกตัวมีความแตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันก็ตามที คุณควรใช้ข้อมูลจำเพาะโดยสังเขปของสายพันธุ์เพื่อเป็นข้อบ่งชี้โดยทั่วไปเท่านั้น เราขอแนะนําให้ฝึกและนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปเข้าสังคม รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน (รวมถึงความต้องทางสังคมและทางพฤติกรรม) ของสัตว์เลี้ยงให้ดี เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี มีความสุข และมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้กับเด็กตามลำพัง โปรดขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เพาะพันธุ์สัตว์หรือสัตวแพทย์ของคุณ สัตว์เลี้ยงทุกตัวเข้ากับคนง่ายและชอบอยู่ร่วมกับคนหรือสัตว์ตัวอื่น แต่คุณก็อาจฝึกให้สัตว์เลี้ยงเรียนรู้ที่จะอยู่โดยลำพังได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โปรดขอให้สัตวแพทย์หรือครูฝึกช่วยเหลือคุณในประเด็นนี้
ภาพประกอบสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดสีดำและน้ำตาลจากด้านข้าง
ตัวผู้ตัวเมีย
ความสูงความสูง
60 - 65 cm55 - 60 cm
น้ำหนักน้ำหนัก
30 - 40 kg22 - 32 kg
ขั้นตอนชีวิต
ช่วงวัยลูกสุนัขช่วงอายุโตเต็มวัย
อายุ 2 ถึง 15 เดือน15 เดือนถึง 5 ปี
ช่วงอายุเริ่มสูงวัยช่วงอายุสูงวัย
5 ถึง 8 ปี8 ถึง 18 ปี
ช่วงวัยแรกเกิด
วัยแรกเกิดถึง 2 เดือน
มุมมองด้านข้างจากระยะใกล้ของสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดกำลังหายใจหอบ
1/7

มาทำความรู้จักกับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด 

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์นี้

เยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่ฉลาด, ร่าเริง และแน่วแน่ ตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการมากมายในตัวสุนัข นี่คือสุนัขที่อุทิศตัวให้กับเจ้าของและครอบครัว สุนัขจะเดินตามคุณจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง ขึ้นรถ ไปทุกที่ที่คุณไป

เยอรมัน เชพเพิร์ดมีพลังงานเยอะหรือไม่ เยอะมาก แต่นั่นก็หมายถึงความสนุกเช่นกัน เนื่องจากสายพันธุ์นี้มองว่าทุกกิจกรรมนั้นเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง งานทุกงานที่มอบหมายให้กับเยอรมัน เชพเพิร์ด รวมทั้งการแข่งสะกดรอยสัตว์และการแข่งความคล่องตัวที่สุนัขทำได้ดีมาก

มีลักษณะประการหนึ่งที่กำหนดความเป็นเยอรมัน เชพเพิร์ด นั่นคือความฉลาด สุนัขเป็นที่รู้จักในเรื่องสติปัญญาสูงอย่างไม่น่าเชื่อและความสามารถในการคิดแก้ไขปัญหา ด้วยสาเหตุนี้ พร้อมด้วยความซื่อสัตย์ที่มีตามธรรมชาติ ทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมใช้งานในงานของตำรวจหรือทหาร

เนื่องด้วยความฉลาดอย่างมากของสุนัข สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดจึงนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในฐานะสุนัขช่วยเหลือสำหรับผู้พิการหรือผู้พิการทางสายตา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบทบาทนี้เมื่อพิจารณาจากความซื่อสัตย์ ความฉลาด และความสามารถในการดมกลิ่นที่เฉียบขาด

ฝึกสุนัขให้ดี แล้วสายพันธุ์นี้จะให้สิ่งที่ดีแก่คุณอย่างน่าทึ่ง ด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง สายพันธุ์นี้ยังเป็นที่รู้กันว่าเป็นเพื่อนที่ดี สุนัขผูกพันอย่างมากกับเจ้าของ ดังนั้น การสอนสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องทำสม่ำเสมอ

จุดเด่นอื่นๆ ของสายพันธุ์ได้แก่ ขน! ขนสองชั้น ประกอบด้วขนชั้นนอกที่หนานุ่ม สีสันที่ชัดเข้มและโดดเด่น ทำให้สุนัขสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดมีรูปลักษณ์ที่สง่างาม

มุมมองด้านข้างของสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดโดยมีขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในฉากหลัง
2/7

ข้อเท็จจริง 2 ประการเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด

1. ความสามารถในการรับรู้กลิ่นอันน่าทึ่ง

สายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นหนึ่งในผู้นำด้านความสามารถในการรับรู้กลิ่น ซึ่งหมายถึงดมกลิ่นนั่นเอง เดิมนั้น สุนัขถูกใช้เพื่อทำการค้นหาและกู้ภัย และใช้สำหรับการดมกลิ่นระเบิดและยาเสพติดในงานของตำรวจและทหาร เนื่องจากมีลักษณะเด่นนี้

2. เมื่อพูดถึงจมูก.... 

สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นสุนัขต้อนสัตว์ และกลายเป็นที่รู้จักไม่เฉพาะในเรื่องการต้อนสัตว์ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการไล่ตามมนุษย์ด้วย สุนัขจะดุนคุณด้วยจมูก เมื่อสุนัขต้องการออกไปข้างนอก ไปเดินเล่น หรือเมื่อถึงเวลาอาหาร นี่เป็นลักษณะที่มีเสน่ห์และไม่เป็นอันตราย และอาจเป็นประโยชน์หากคุณมีเด็กๆ เนื่องจากเยอรมัน เชพเพิร์ดมีนิสัยที่ชอบปกป้องอย่างมากเช่นกัน

3/7

ประวัติของสายพันธุ์

อุปนิสัยของเยอรมัน เชพเพิร์ด ซึ่งนิ่งและซื่อสัตย์อย่างยิ่ง สะท้อนให้เห็นถึงการเพาะพันธุ์อย่างรอบคอบโดยกัปตัน Max Frederic Emile Von Stephanitz ในเยอรมนีที่เริ่มขึ้นในปี 1899 Von Stephanitz ต้องการสร้างสุนัขต้อนสัตว์ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะต้อนแกะ จึงนำผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขต้อนแกะจากเยอรมนีตอนใต้และเยอรมนีตอนกลาง เป้าหมายคือสุนัขที่มีความฉลาดสูงและแข็งแรง "เชพเพิร์ด" (คนเลี้ยงแกะ) จึงกำเนิดขึ้น

หลังจากนั้น Von Stephanitz ก่อตั้งสโมสรสำหรับสายพันธุ์นี้ขึ้นที่แฟรงก์เฟิร์ตในปี 1899 สายพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาความสามารถในการเชื่อฟังคำสั่งในปีต่อๆ มา และกลายเป็นที่นิยมในการใช้ดูแลความปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานของทหารและตำรวจ ซึ่งยังคงใช้งานสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดอย่างกว้างขวางจนถึงทุกวันนี้ และความชื่นชมในตัวสุนัขสายพันธุ์นี้ก็มาสู่ประชาชนทั่วไป โดยสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในสหรัฐอเมริกา อันเป็นผลมาจากดาราสุนัขในภาพยนตร์เรื่อง Rin-Tin-Tin และ Strongheart สายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก โดย American Kennel Club จัดอันดับให้อยู่ในสิบอันดับแรกของสายพันธุ์ยอดนิยมในสหรัฐฯ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเป็นอันดับสองรองจากลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

4/7

ตั้งแต่หัวจรดหาง

ลักษณะทางกายภาพของสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด

1
2
3
4
5

1.หู

ใบหูมีลักษณะตั้งตรงขึ้น ปลายใบหูแหลม

2.ศีรษะ

ศีรษะมีลักษณะยาวและได้สัดส่วน ปากแข็งแรง

3.เส้นขน

ขนชั้นในหนา ขนชั้นนอกหยาบ มีสีโดดเด่น ได้แก่ สีดำและสีน้ำตาลเข้ม สีเงิน และสีขาว

4.ลำตัว

ร่างกายแข็งแรง มีกล้ามเนื้อ ผอมเพรียว มีความสมดุลและสมส่วน ซี่โครงและอกแน่น ไม่อ้วนเตี้ย

5.หาง

ขนที่หางหนาและยาว ขนด้านล่างยาวกว่าเล็กน้อย

.

5/7

ข้อควรระวัง

นี่คือข้อเท็จจริงในลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์บางประการ รวมถึงสุขภาพทั่วไปโดยรวมของสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดของคุณ

สายพันธุ์ที่แข็งแรงแต่ท้องเสียง่าย

เมื่อกล่าวถึงสุขภาพ เยอรมัน เชพเพิร์ดอาจมีปัญหาอยู่บ้างเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบย่อยอาหารและอาการท้องเสีย ซึ่งไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องสนุกนักสำหรับสุนัข เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์จากอาหาร ท้องร่วงหรืออุจจาระเหลว กระเพาะและลำไส้อักเสบ เอ็นไซม์ย่อยอาหารไม่เพียงพอ ท้องอืดหรือ IBD รวมถึงความผิดปกติอื่นๆ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้หรือการระคายเคืองผิวหนัง อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน การให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแก่สุนัขจะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพที่ดี การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งอาจใช้เวลาและเงินเป็นจำนวนมาก สัตวแพทย์ที่ดีจะช่วยคุณแก้ไขปัญหานี้

ระวังสะโพกด้วยนะ!

ข้อสะโพกเสื่อมเป็นการเจ็บป่วยอันดับสามของเยอรมัน เชพเพิร์ด โดยข้อมูลแล้ว สายพันธุ์นี้มีแนวโน้มเป็นโรคนี้มาก โรคนี้เป็นโรคทางพัฒนาการของข้อต่อลูกกลมและเบ้ากระดูกที่กระดูกต้นขาและกระดูกสะโพกไม่สอดคล้องกัน อันส่งผลให้เป็นโรคข้ออักเสบ ดังนั้น ต้องดูแลให้อัตราการเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสุนัขพันธุ์ใหญ่เป็นไปอย่างสม่ำเสมอคงที่เพื่อให้กระดูกและกล้ามเนื้อของสุนัขพัฒนาไปอย่างสอดคล้องกัน โรคข้อเสื่อมอาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อเติบโตเร็วขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความเครียดที่กระดูกและข้อต่อ ส่งผลให้เกิดโรคข้ออักเสบตามด้วยข้อเสื่อม หมั่นนำสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้นและค้นหาสัญญาณความผิดปกติ

พลังงานล้นเหลือ

ขอเตือนไว้ล่วงหน้าประการหนึ่ง สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่บ้าพลังมาก อาจฟังดูน่าตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการเลี้ยงสุนัขที่สง่างามพันธุ์นี้ในบ้านของคุณ แต่นี่ไม่ใช่สายพันธุ์ที่เหมาะกับทุกคน สุนัขต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันและในปริมาณมาก ถึงขนาดที่สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดจะวิ่งไปกับคุณในระยะทางไกลได้อย่างง่ายดาย และพร้อมวิ่งเหยาะๆ เป็นเวลาได้หลายชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับสายพันธุ์ต่างๆ สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดอาจประสบปัญหาสุขภาพเมื่อลักษณะทางกายภาพบางอย่างของพวกเขาใหญ่โตมากเกินไป ในกรณีของสายพันธุ์นี้คือ ปัญหาหลังลาดเอียง ซึ่งอาจเกิดจากการพัฒนาสุนัขสำหรับการประกวด ผู้เพาะพันธุ์สัตว์มุ่งเพาะสุนัขที่มีรูปร่างสง่างามและขาสั้นลงเพื่อการเดินที่กระฉับกระเฉงยามสุนัขเดินบนเวทีประกวด เราขอแนะนำให้คุณซื้อสุนัขจากผู้เพาะพันธุ์สัตว์ที่มีความรับผิดชอบเสมอ และขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณหากจำเป็น

โภชนาการที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข

มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกอาหารให้กับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด ได้แก่ อายุ ไลฟ์สไตล์ ระดับกิจกรรม สภาพร่างกาย และสุขภาพรวมถึงการเจ็บป่วยหรืออาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารช่วยให้พลังงานเพื่อเสริมสร้างการทำงานที่สำคัญของร่างกายและสูตรโภชนาการที่ครบถ้วนควรมีสารอาหารที่สมดุลเพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารมากเกินไป ซึ่งทั้งสองอย่างอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของสุนัขได้ ควรจัดเตรียมน้ำสะอาดไว้ให้ตลอดเวลาเพื่อสนับสนุนให้สุนัขปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ ในสภาพอากาศร้อนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกกำลังกาย ควรนำน้ำไปด้วยเพื่อให้สุนัขของคุณได้พักดื่มน้ำบ่อยๆ นอกจากนั้นยังอาจต้องปรับการบริโภคพลังงานตามสภาพภูมิอากาศ สุนัขที่อยู่กลางแจ้งในฤดูหนาวจะต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น คำแนะนำต่อไปนี้ใช้ได้กับสัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น หากสุนัขของคุณมีปัญหาสุขภาพ โปรดปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณเพื่อสั่งจ่ายอาหารสุนัขสูตรลดน้ำหนักพิเศษ

ลูกสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องการพลังงาน โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินสูงกว่าช่วงโตเต็มวัย ลูกสุนัขต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ก็เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างร่างกายด้วยเช่นกัน ร่างกายลูกสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดจะค่อยๆ สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันจนกระทั่งอายุ 15 เดือน สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งรวมถึงวิตามินอี จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติตลอดช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การผจญภัย และการพบเจอสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ การทำงานของระบบย่อยอาหารของลูกสุนัขมีความแตกต่างจากสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดโตเต็มวัยด้วยเช่นกัน ระบบทางเดินอาหารของลูกสุนัขที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ต้องการโปรตีนที่ย่อยได้ง่ายเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล แมนแนนโอลิโกแซคคาไรด์และพรีไบโอติก เช่น ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของทางเดินอาหารโดยช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้ ซึ่งจะทำให้ให้อุจจาระมีคุณภาพดี

สิ่งสําคัญคือต้องเลือกเม็ดอาหารที่มีขนาด รูปร่าง และเนื้อสัมผัสที่เหมาะสม ช่วงการเจริญเติบโตนี้ยังหมายถึงความต้องการพลังงานในระดับปานกลาง ลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่มีการเจริญเติบโตที่พรวดพราดในระยะเวลาที่ยาวนาน ดังเช่น ลูกสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด มีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกและข้อต่อ รวมถึงความผิดปกติของแขนและขา กระดูกที่ผิดรูป และการบาดเจ็บที่ข้อต่อ ข้อกังวลหลักในช่วงแรกของการเจริญเติบโตคือพัฒนาการของกระดูก แม้ว่ากล้ามเนื้อเริ่มเติบโตแล้วก็ตาม ซึ่งหมายความว่าลูกสุนัขที่กินมากเกินไป ได้รับพลังงานมากเกินไป จะมีน้ำหนักตัวมากเกินไปและเติบโตเร็วเกินไป น้ำหนักส่วนเกินบนโครงกระดูกนี้จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะมีความผิดปกติของกระดูกและปัญหาข้อต่อ หรือการเจริญเติบโตผิดปกติ การจำกัดปริมาณพลังงานในอาหารสําหรับลูกสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด และการให้อาหารในปริมาณที่ถูกต้องในแต่ละวันจะช่วยควบคุมความเร็วของการเจริญเติบโตและลดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักเพิ่มมากเกินไปนี้

สารอาหารอื่นๆ ในอาหารสูตรพิเศษเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตควรมีความเข้มข้นมากกว่าปกติ แม้จะต้องเพิ่มปริมาณแคลเซียมในอาหารให้มากขึ้น ลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ยังคงมีความเสี่ยงมากขึ้นจากการบริโภคแคลเซียมมากเกินไป ดังนั้น จึงต้องเข้าใจว่าการเพิ่มส่วนผสมใดๆ ลงไปในในอาหารสูตรเฉพาะสำหรับการเจริญเติบโตนั้นไม่มีความจำเป็น และอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อตัวสัตว์เลี้ยงเอง เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ แนะนําให้แบ่งปริมาณอาหารที่ควรได้รับต่อวันออกเป็นสามมื้อจนกว่าสุนัขจะมีอายุครบ 6 เดือน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นให้อาหารวันละสองมื้อ

เป้าหมายหลักด้านโภชนาการสําหรับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดโตเต็มวัยคือ:

ส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและใยอาหารที่เลือกสรรมาโดยเฉพาะเพื่อลดการหมักในลำไส้ ช่วยเสริมสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้และคำนึงถึงความอ่อนไหวของระบบทางเดินอาหารของเยอรมัน เชพเพิร์ด

บำรุง สุขภาพและความเงางามของผิวหนังและขนด้วยการเพิ่ม กรดไขมันที่จําเป็น (โดยเฉพาะ EPA-DHA) กรดอะมิโนที่สำคัญและวิตามินบี เพื่อสร้างเสริมการทำหน้าที่เกราะป้องกันของผิวหนัง

ช่วย บำรุงสุขภาพของกระดูกและข้อต่อด้วยกลูโคซามีน คอนดรอยติน และสารต้านอนุมูลอิสระ

สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดจะเริ่มเแสดงสัญญาณของความสูงวัยเมื่ออายุ 5 ปีขึ้นไป อาหารสูตรที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยบำรุงกำลัง และสารอาหารเฉพาะบางอย่าง เช่น คอนดรอยทิน กลูโคซามีน คอลลาเจน และ EPA-DHA จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของกระดูกและข้อต่อของสุนัข ความสูงวัยมาคู่กับความสามารถในการย่อยอาหารที่เปลี่ยนไป รวมถึงความต้องการสารอาหารเฉพาะมากขึ้น ดังนั้นอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดสูงวัยจึงควรมีคุณลักษณะดังนี้

มีปริมาณวิตามินซีและอีสูง สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากความเครียดที่เกิดจากออกซิเดชันที่เกี่ยวข้องกับความสูงวัย

โปรตีนคุณภาพสูง การลดปริมาณโปรตีนในอาหารช่วยลดอาการไตวายได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งขัดกับความเข้าใจผิดที่แพร่หลายมาก ยิ่งไปกว่านั้น สุนัขอายุมากมีประสิทธิภาพในนำโปรตีนในอาหารไปใช้ประโยชน์ได้น้อยกว่าสุนัขอายุน้อย การลดปริมาณฟอสฟอรัสเป็นการชะลอความเสื่อมสภาพของการทำงานของไตในระยะยาวได้ดี

สัดส่วน ของแร่ธาตุที่จำเป็นในระดับที่สูง ได้แก่ ธาตุเหล็ก และสังกะสีจะช่วยในการบำรุง ผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี

มีปริมาณ กรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงขึ้น เช่น น้ำมันโบราจและน้ำมันปลา เพื่อช่วยดูแลขนให้มีสุขภาพดี โดยปกติแล้วสุนัขจะผลิตกรดไขมันเหล่านี้ได้เอง แต่ความสูงวัยอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานนี้

เมื่ออายุมากขึ้น สุนัขก็จะประสบปัญหาเกี่ยวกับฟันมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขรับประทานอาหาร ในปริมาณที่เพียงพอ ควรต้องปรับเปลี่ยน รูปทรง ขนาด และความแข็งของเม็ดอาหาร ให้เหมาะสมกับกรามของสุนัขในวัยนี้

เจ้าของไม่ควรให้อาหารสำหรับคนหรือขนมที่มีไขมันแก่สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดตลอดชีวิตของสุนัข ควรให้รางวัลสุนัขด้วยการแบ่งอาหารเม็ดจากปริมาณอาหารต่อวัน และปฏิบัติตามแนวทางการให้อาหารที่เขียนกำกับไว้ข้างบรรจุภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขมีน้ำหนักตัวมากที่เกินพอดี

สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดกำลังวิ่งบนดินและใบไม้
6/7

การดูแลสุนัขสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดของคุณ

เคล็ดลับในการดูแลขน การฝึก และการออกกําลังกาย

เยอรมัน เชพเพิร์ดและการออกกำลังกายเป็นของคู่กัน สุนัขต้องการกิจกรรมมากมายในแต่ละวันเนื่องจากเป็นสุนัขที่แข็งแรงและทำงานได้ดีมาก อีกทั้งยังเป็นนักวิ่งยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะวิ่งตัวเดียวหรือวิ่งเคียงคู่ไปกับเจ้าของ สุนัขวิ่งระยะทางไกลได้ดี การออกกำลังกายโดยไล่ต้อนฝูงสัตว์ สะกดตามรอยสัตว์ หรือกิจกรรมเน้นความคล่องตัวยังเหมาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์นี้ ซึ่งมักเป็นคู่แข่งกันเองในการแข่งขันประเภทนี้ รวมถึงการแข่งขันสุนัขทำงานและการประกวดสุนัขทุกประเภทอีกด้วย

เยอรมัน เชพเพิร์ดมีขนสองชั้น ขนชั้นนอกค่อนข้างหยาบ และขนชั้นในอ่อนนุ่ม แนะนำให้ดูแลขนโดยการแปรงขนสัปดาห์ละสองครั้ง แม้จะมีความเป็นนักกีฬาสูง แต่ไม่ต้องอาบน้ำเยอรมัน เชพเพิร์ดบ่อยเกินไป โดยทั่วไปแล้ว สายพันธุ์ที่มีขนยาวจะผลัดขน แต่ถ้าแปรงเป็นประจำ การผลัดขนจะน้อยลง การผลัดขนจะเกิดขึ้นปีละสองครั้ง เพื่อให้ขนใหม่เกิดขึ้น ควรตัดแต่งเล็บทุกเดือน แต่ถ้าสุนัขเดินบนพื้นผิวที่แข็ง เล็บของสุนัขจะสั้นและไม่จำเป็นต้องตัดเล็บบ่อย

สายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดฝึกง่ายมาก เนื่องจากมีอุปนิสัยที่ตอบสนองต่อคำแนะนำและคำสั่งได้ดี สุนัขกระตือรือร้นอย่างมากที่จะทำให้เจ้าของพอใจ และคงไม่พูดเกินจริงหากจะบอกว่าสุนัขฉลาดอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเมื่อต้องการให้สุนัขกลายเป็นเพื่อนคู่หูที่ยอดเยี่ยม ขอแนะนำให้เริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข เพราะเยอรมัน เชพเพิร์ดชอบที่จะได้ทำสิ่งต่างๆ สุนัขมีความผูกพันอย่างมากกับสมาชิกในครอบครัวที่เป็นมนุษย์

7/7

ทุกสิ่งเกี่ยวกับสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด

ที่มา
  1. ศูนย์สัตวแพทย์แห่งอเมริกา https://vcahospitals.com/
  2. สารานุกรมสุนัขของโรยัล คานิน ฉบับปี 2010 และ 2020
  3. โรงพยาบาลสัตว์แบนฟิลด์ https://www.banfield.com/
  4. คู่มือผลิตภัณฑ์ BHN ของโรยัล คานิน
  5. American Kennel Club https://www.akc.org/

ชอบ และแบ่งปันหน้านี้