คู่มือการให้อาหารลูกแมวตามระยะการเจริญเติบโต

เมื่อลูกแมวของคุณเติบโตขึ้น ลูกแมวจะต้องการอาหารและมีวิธีการกินอาหารที่แตกต่างจากเดิม ดูข้อมูลเพิ่มได้ในบทความของเราเกี่ยวกับการให้อาหารลูกแมวในแต่ละช่วงวัยของชีวิต
Kitten Sacred Birman sitting indoors eating from a white bowl.

ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงช่วงโตเต็มวัย คุณสามารถดูแลแมวของคุณได้หลากหลายวิธีเพื่อทำให้แมวมีสุขภาพดีและแข็งแรง รวมไปถึงการดูแลเรื่องอาหาร และความต้องการด้านโภชนาการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงวัย

การให้อาหารลูกแมวที่อายุต่ำกว่า 4 สัปดาห์

ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1 เดือน ลูกแมวต้องการสารอาหารอย่างครบถ้วนจากการดูดนมแม่แมว เริ่มแรกลูกแมวจะได้รับนมน้ำเหลือง ซึ่งมีลักษณะเหมือนน้ำนมที่มีสารอาหารเข้มข้น ที่ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของลูกแมวแรกเกิด ก่อนที่จะได้กินน้ำนมจริงๆ ในเวลาถัดมา คุณสามารถให้ลูกแมวกินนมทดแทนสำหรับลูกแมวแรกเกิดได้ ในกรณีที่สัตวแพทย์แนะนำ เพื่อจะได้มั่นใจว่าลูกแมวได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่พวกเขาต้องการ การให้นมทดแทนสำคัญมากในกรณีที่แม่แมวไม่มีน้ำนม มีน้ำนมไม่เพียงพอ หรือในครอกนั้นมีจำนวนลูกแมวแรกเกิดมากกว่าปกติ

ในตอนแรก ลูกแมวของคุณอาจน้ำหนักลดลงเล็กน้อยเพราะกำลังเรียนรู้วิธีการดูดนม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ลูกแมวจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคุณควรชั่งน้ำหนักลูกแมวทุกวัน และปรึกษาสัตวแพทย์ถ้าน้ำหนักของลูกแมวคงที่หรือลดลง สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ในช่วงเวลานี้คือ ดูแลให้ลูกแมวและแม่แมวปลอดภัยและไม่ถูกรบกวน ปล่อยให้แม่แมวให้นมลูกแมวในที่สงบ

การให้อาหารลูกแมวที่มีอายุ 4 สัปดาห์ถึง 4 เดือน

เมื่ออายุครบ 4 สัปดาห์ ลูกแมวของคุณจะเริ่มแสดงความสนใจต่ออาหารแข็งและคุณสามารถเริ่มให้ลูกแมวหย่านมได้แล้ว โดยการให้ลูกแมวกินอาหารเม็ดผสมน้ำนมทดแทนสำหรับลูกแมวหรือน้ำสะอาด ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันเพื่อให้ลูกแมวกินได้ง่าย หรือคุณอาจจะให้อาหารแบบเปียกแทนก็ได้ เลือกให้อาหารที่ออกแบบมาสำหรับลูกแมวโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของลูกแมวได้เป็นอย่างดี เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อกระตุ้นการสร้างสารภูมิต้านทาน เพราะในช่วงหย่านมภูมิต้านทานที่ลูกแมวได้รับจากแม่จะเริ่มลดลง

คุณสามารถเริ่มฝึกนิสัยการกินอาหารที่ดี ด้วยการแบ่งแยกพื้นที่สำหรับการกิน การเล่น การนอน และการขับถ่าย โดยเลียนแบบพฤติกรรมตามธรรมชาติของลูกแมว ควรมีน้ำสะอาดปริมาณมากๆ ให้ลูกแมวดื่มด้วย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

ลูกแมวนั่งข้างชามอาหารสีเงินในบ้าน

การให้อาหารลูกแมวของคุณตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป

เมื่อแมวของคุณโตเต็มวัย ควรรักษาพฤติกรรมการให้อาหารที่ดีและหลีกเลี่ยงความเครียดโดยการปล่อยให้แมวกินอาหารในที่ที่เงียบสงบ โดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่ชอบกินอาหารมื้อเล็ก ๆ และกินตลอดทั้งวัน โดยจะกินอาหารมื้อเล็กมาก 15-20 มื้อต่อวัน แมวส่วนใหญ่จะควบคุมการกินของตัวเอง ดังนั้นคุณจึงสามารถเทอาหารตามปริมาณที่แนะนำแต่ละวันทิ้งไว้ได้เลย และปล่อยให้แมวจัดการกับอาหารในชามด้วยตัวเอง

หากคุณเลือกที่จะทำหมันแมว แมวทำหมันแล้วอาจมีความเสี่ยงที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากทำหมัน เนื่องจากแมวทำหมันจะใช้พลังงานลดลง 30% แต่มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นถึง 26% ควรเลือกอาหารสูตรพิเศษสำหรับแมวทำหมัน และเหมาะสำหรับสายพันธุ์และเพศของแมว รวมทั้งการเฝ้าดูน้ำหนักแมวเป็นประจำ

นอกจากนั้นคุณยังควรพิจารณารูปแบบการดำรงชีวิตของแมวเมื่อให้อาหารขณะที่แมวโตเต็มวัย หรือตั้งแต่ประมาณ 12 เดือนเป็นต้นไป แมวที่อยู่ในบ้านและมีรูปแบบการดำรงชีวิตแบบอยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยขยับตัว จะต้องการพลังงานน้อยกว่าแมวนอกบ้าน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องให้แมวได้รับอาหารในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่มและมีปัญหาสุขภาพในเวลาต่อมา

การฝึกพฤติกรรมการให้อาหารที่ดีและการให้ลูกแมวกินอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการ จะช่วยให้แมวมีสุขภาพดีและโตเต็มวัยอย่างมีความสุข หากคุณไม่แน่ใจในวิธีที่ถูกต้องในการให้อาหารแมวของคุณ โปรดติดต่อสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ

tailored-nutrition-for-your-kitten-neonatal

โภชนาการตามความต้องการเฉพาะที่เหมาะสำหรับลูกแมวของคุณ

สูตรอาหารที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันตามธรรมชาติให้กับลูกแมว การเจริญเติบโตที่แข็งแรง และช่วยพัฒนาระบบทางเดินอาหาร

ชอบ และแบ่งปันหน้านี้